วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

บาสซูน (Bassoon)


          เป็นเครื่องดนตรีที่ค่อนข้างแปลกและลึกลับ เพราะไม่มีใครทราบแน่นอนว่า ถือกำเนิดขึ้นเมื่อไหร่ และที่ไหน แต่สันนิษฐานว่า น่าจะมาจากประเทศอิตาลี ในช่วงปี ค.ศ.1550 โดยแปลงมาจากเครื่องลม ที่ให้เสียงเบส ที่เรียกว่า ดัลเชียน (Dulcian) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมในยุค Renaissance เพราะเครื่องดนตรีที่เรียกว่า Dulcian นี้ ในภาษาอิตาเลียน เรียกว่า ฟาก็อตโต้ (Fagotto) ละ คำว่า บาสซูน นี้ ภาษาอิตาเลียน ก็ใช้คำว่า Fagotto เช่นเดียวกัน


ภาพเครื่องดนตรีโบราณ ที่เรียกว่า Dulcian



          ส่วนคำว่า บาสซูน (Bassoon) เป็นภาษาอังกฤษ น่าจะมาจาก ลักษณะของตัวเครื่องดนตรีเองที่ให้เสียงเบส จากหลักฐาน พบการใช้คำว่า Bassoon เป็นครั้งแรก ในโน้ตเพลงสำหรับ บทโอเปร่า เรื่อง Dioclecian บทประพันธ์ของ Henry Purcell คีตกวีชาวอังกฤษ ในยุคบาโรก และนับแต่นั้นเป็นต้นมา บาสซูน ก็ได้รับความนิยมในฐานะเครื่องดนตรีที่ให้เสียงต่ำที่สุดในกลุ่มเครื่องลมด้วยกัน โดยให้เป็นตัวเดินแนวเบส และในสมัยบาโรก มักนิยมจัดให้บาสซูน 1 เครื่อง เล่นด้วยกันกับ โอโบ 2 ตัว


ภาพ Baroque Bassoon



บาสซูนที่นำมาผสมวงดนตรีในปัจจุบันมี 2 ชนิด ได้แก่
          บาสซูน (Bassoon) เป็นปี่ขนาดใหญ่ ใช้ลิ้นคู่เช่นเดียวกับโอโบ รูปร่างของบาสซูน ค่อนข้างจะประหลาดกว่าปี่ชนิดอื่นๆ เนื่องจากความใหญ่โตของท่อลม ซึ่งมีความยาวถึง 109 นิ้ว แต่เพื่อไม่ให้ยาวเกะกะ จึงใช้วิธีทบท่อลิ่มให้เหลือความยาวประมาณ 4 ฟุตเศษ บาสซูนมีน้ำหนักมากจึงต้องมีสายคล้องคอเพื่อช่วยพยุงน้ำหนักเรียกว่า Sling เพื่อให้มือทั้งสองของผู้เล่นขยับไปกด แป้นนิ้วต่างๆ ได้สะดวก บาสซูนได้รับฉายาว่าเป็น "ตัวตลกของวงออร์เคลตร้า" (The Clow of the Orchestra) ทั้งนี้เพราะเวลาบรรเลงเสียงสั้นๆ ห้วนๆ (Staccato) อย่างเร็วๆ จะมีเสียงดัง ปูด…ปู๊ด…คล้ายลักษณะท่าทางของตัวตลก ที่มีอากัปกริยากระโดดเต้นหยองๆ ในโรงละครสัตว์ เสียงของบาสซูนต่ำนุ่มลึก ถือเป็นแนวเบสของกลุ่มเครื่องลมไม้ นอกนั้นยังสามารถเล่นทำนองเดียวได้อย่างงดงามอีกด้วย


ภาพบาสซูนในปัจจุบัน



          คอนทรา บาสซูน หรือ ดับเบิล บาสซูน (Contra Bassoon or Double Bassoon) คอนทราบาสซูน ประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกโดยชาวอังกฤษสองคน ชื่อ สโตน และ มอร์ตัน (Stone & Morton) ต่อมา เฮคเคล (Heckel) ได้ปรับปรุงโดยติดกลไกของแป้นนิ้วต่างๆ ให้สมบูรณ์และนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน คอนทราบาสซูนเป็นปี่ที่ใหญ่กว่าบาสซูน ประมาณเท่าตัวคือมีความยาวของท่อลมทั้งหมดถึง 18 ฟุต 4 นิ้ว หรือ 220 นิ้วพับเป็นสี่ท่อน แต่ละท่อนเชื่อมต่อด้วย Butt และข้อต่อรูปตัว U ที่ปลายท่อนสุดท้ายจะต่อกับลำโพงโลหะที่คว่ำลงในแนวดิ่ง แต่คอนทราบาสซูนอีกชนิดหนึ่งลำโพงหงายขึ้นในแนวดิ่ง ให้เสียงต่ำกว่าบาสซูน ลงไปอีก 1 ออคเทฟ เสียงจะนุ่มไม่แข็งกร้าวเหมือนบาสซูน แต่ถ้าบรรเลงเสียงต่ำอย่างช้าๆ ในวงออร์เคสตรา ขณะที่เครื่องดนตรีอื่นๆ เล่นอย่างเบาๆ จะสร้างภาพพจน์คล้ายมีงูใหญ่เลื้อยออกมาจากที่มือ โอกาสที่ใช้ไม่สู้มากนัก


ภาพ คอนทรา บาสซูน หรือ ดับเบิล บาสซูน ในปัจจุบัน



ที่มา :
โรงเรียนทวีธาภิเศก
http://th.wikipedia.org/wiki/
http://www.pantown.com/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น